designed by nongnoy.net
 
   
 
 
 
 
 
 
             
 
 
         
     
 
     
     
โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ หนุนลดมลพิษ : เริ่้มใช้ 1 มกราคม 2559
 

ผ่าโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ หนุนประหยัดพลังงาน-ลดมลพิษ คิดภาษีตามการปล่อยก๊าซคาร์บอน

18 ธ.ค.55 กระทรวงการคลังได้เสนอให้ครม.อนุมัติการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยปรับเปลี่ยนหลักการการคำนวณภาษีใหม่จากเดิมคิดภาษีจากปริมาตรกระบอกสูบ และแรงม้าเป็นการคำนวณจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอของกระทรวงการคลังที่ครม.อนุมัติ

 

กระทรวงการคลังเสนอครม.อนุมัติปรับโครงสร้างสรรพสามิตรถยนต์ โดยพิจารณาจากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประกอบกับเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส เห็นควรให้มีช่วงระยะเวลาในการปรับตัว ของผู้ประกอบการรถยนต์ โดยกำหนดให้มีผลบังคับ 1 ม.ค. 2559 และแบ่งตามประเภทรถยนต์

 

รถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารไม่เกิน 10 คน จัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแบ่งระดับปริมาณการปล่อยคาร์บอนฯเป็น 3 ช่วง ไม่เกิน 150 กรัมต่อกม. , เกิน 150 กรัมแต่ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม., เกิน 200 กรัมต่อกม.โดยพิจารณาจากปริมาณก๊าซคาร์บอนฯที่ปล่อยจากรถยนต์ปัจจุบัน โดยรถยนต์ 1400-1600 ซีซี จะปล่อยก๊าซคาร์บอนระหว่าง 150-170 กรัมต่อกม. จึงเห็นควรกำหนดช่วงแรกของก๊าซคาร์บอนให้อยู่ระหว่าง 0-150 กรัมต่อกม.

 

ขณะที่รถยนต์ 1,700-2,000 ซีซี มีปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ 180-200 กรัมต่อกม. จึงเห็นควรกำหนดช่วงให้อยู่ระหว่าง 151-200 กรัมต่อกม. และเห็นควรกำหนดช่วงสุดท้ายให้อยู่มากกว่า 200 กรัมต่อกม.ขึ้นไป ซึ่งรถยนต์ที่มีขนาดเกิน 2,000 ซีซี มีปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนฯระหว่าง 200-300 กรัมต่อกม. โดยมีรายละเอียดของการปรับโครงสร้างภาษีออกเป็น 3 ช่วง คือ

1.

ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีก๊าซคาร์บอนฯไม่เกิน 150 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 30

2.

ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯเกิน 150 กรัมแต่ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บตามอัตรามูลค่าร้อยละ 35

3.

ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯเกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 40

 

รถยนต์นั่งอี 85 และรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซธรรมชาติ ที่ติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมจัดเก็บอัตราภาษีรถยนต์แบ่งออกเป็น 3 ช่วง

1.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เกิน 150 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 25
2.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน 150 กรัมแต่ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราร้อยละ 30
3.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 35
   
รถยนต์แบบผสมที่ใช้เชื้อเพลิงพลังงานและไฟฟ้าจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ออกเป็น 4 ช่วง
1.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน ไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เกิน 100 กรัมต่อกม .จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 10
2.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซีและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 100 กรัมแต่ไม่เกิน 150 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 20
3.

ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซีและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 150 กรัมแต่ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 25

4.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซีและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 30
   
รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นที่ด้านหลังที่นั่งคนขับจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง
1.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 3
2.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 5 ทั้งนี้รถยนต์กระบะที่มีคุณลักษณะนอกเหนือจากข้อ 1 และ 2 ให้จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 18
   
รถยนต์กระบะที่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับหรือกระบะแคป จัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง
1.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซีและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 5
2.
ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซีและมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 200 กรัมต่อกม.จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 7
   
รถยนต์นั่งที่มีกระบะดับเบิลแคป จัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์จากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
1.
ที่มีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 12
2.
ที่มีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน เกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 15
   
รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก จัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์จากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
1.
ที่มีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 25
2.
ที่มีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 30
 

ทั้งนี้ รถยนต์ที่มีคุณลักษณะนอกเหนือจากดังที่กล่าวมา

1.
รถยนต์นั่ง รถยนต์นั่งอี 85 และรถยนต์ไฮบริด หากมีความจุของกระบอกสูบเกิน 3,000 ซีซี จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 50
2.
รถกระบะ รถกระบะมีแคป รถยนต์นั่งที่มีกระบะ และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก หากมีความจุของกระบอกสูบเกิน 3,250 ซีซี จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 50
3.
รถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า และรถยนต์แบบเซลล์เชื้อเพลิง จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 10
4.
รถยนต์อีโค คาร์ จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 17
   
 

รถยนต์อีโค คาร์ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เกิน 100 กรัมต่อกม. จัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 14 และรถยนต์อีโค คาร์ ที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 เป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เกิน 100 กรัมต่อกม. จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 12

   
5.
รถยนต์นั่งดัดแปลง ซึ่งมีคุณลักษณะตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
     
 
5.1

ที่ดัดแปลงโดยผู้ดัดแปลงที่ประกอบกิจการเป็นธุรกิจ ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด

    - ที่มีความจุของกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 3
    - ที่มีความจุของกระบอกสูบเกิน 3,250 ซีซี จัดเก็บอัตราตามมูลค่าร้อยละ 50
     
 
5.2

ที่ดัดแปลงโดยผู้ดัดแปลงทั่วไป จัดเก็บภาษีจากมูลค่าส่วนต่อเติม หรือดัดแปลงอัตราภาษีตามมูลค่าเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง

     
6.

รถยนต์นั่งสามล้อ และรถยนต์นั่งที่ผลิตขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์ขนาดไม่เกิน 250 ซีซี จัดเก็บอัตราตามมูลค่า ร้อยละ 5

7.
รถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่ใช้เป็นรถพยาบาลของส่วนราชการ โรงพยาบาล หรือองค์การสาธารณสุขตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และจำนวนที่อธิบดีประกาศ กำหนดให้ได้รับการยกเว้นภาษี
     

ประกอบกับเห็นควรให้รถยนต์ทุกประเภท ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนควบคู่ไปด้วย รวมถึงรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งเกิน 10 คน, รถยนต์ E 85 , รถยนต์ NGV-OEM ที่มีขนาดความจุกระสูบเกิน 3,000 ซีซี และมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำกว่า 150 กม.ต่อกม. , รถยนต์ไฮ-บริดที่มีความจุของขนาดกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี และมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ต่ำกว่า100 กรัมต่อกม., รถยนต์ PPV ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และมีปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำกว่า 200 กรัมต่อกม., รถยนต์อีโคคาร์ที่ใช้เชื้อเพลิงเอทานอลไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่เกิน 100 กรัมต่อกม.กำหนดให้มีมาตรฐานความปลอดภัยเป็นมาตรฐานบังคับ

     
 
 
 
 
                 
หน้าแรก   เกี่ยวกับเรา   บริการของเรา   กิจกรรม   ติดต่อเรา
ประวัติบริษัท ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ กิจกรรม Office ที่อยู่บริษัท
ประวัติประธานกรรมการ บริการจัดทำบัญชี     แผนที่สำนักงาน
คณะผู้บริหาร บริการตรวจสอบบัญชี        
บริษัทในเครือ บริการจดทะเบียนพาณิชย์      
ลูกค้าที่ใช้บริการ บริการประกันภัยทุกประเภท      
      บริการประเมินราคาทรัพย์สิน  
     
         
 
สำนักงานบัญช ในเครือบริษัท เอส.วี.พี. กรุ๊ป
Designed by nongnoy.net
Copyright @ 2015 All right reserved : ขอสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด