|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตแบบบำนาญ และการประหยัดภาษีจากการทำประกันภัยในแบบดังกล่าว จึงขอหยิบยกกรณีศึกษาดังต่อไปนี้ : |
|
นางซื่อบื้อ อาจารย์หัวใส ด๊อกเตอร์ล้ำเลิศ และศาสตราจารย์เหนือชั้น 4 พี่น้องฝาแฝดในตระกูล รวยไม่เลิก มีเงินได้พึงประเมิน ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและสิทธิในการหักลดหย่อน เหมือนกันทุกอย่าง ดังนี้ : |
|
|
|
|
|
1. |
มีเงินได้พึงประเมินจากเงินเดือนและโบนัสทั้งปี |
2,000,000.00 |
บาท |
2. |
มีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายทั้งปี |
170,000.00 |
บาท |
3. |
มีสิทธิในการหักลดหย่อนดังนี้ : |
|
|
|
- ผู้มีเงินได้ |
30,000.00 |
บาท |
|
- คู่สมรส ( ไม่มีเงินได้ ) |
30,000.00 |
บาท |
|
- บุตรยังไม่ศึกษา 1 คน |
15,000.00 |
บาท |
|
- บุตรกำลังศึกษา 1 คน |
17,000.00 |
บาท |
|
- ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ |
|
|
|
หรือสร้างอาคารอยู่อาศัย |
100,000.00 |
บาท |
|
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม |
9,000.00 |
บาท |
|
|
|
|
โดยมีสิทธิในการหักลดหย่อน เฉพาะส่วนที่แตกต่างกัน ดังนี้
|
|
|
|
|
|
|
4. |
อาจารย์หัวใส : |
|
|
|
- เป็นผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบเก่า) |
40,000.00 |
บาท |
5. |
ด๊อกเตอร์ล้ำเลิศ : |
|
|
|
- เป็นผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบเก่า) |
40,000.00 |
บาท |
|
- เป็นผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบใหม่) |
260,000.00 |
บาท |
6. |
ศาสตราจารย์เหนือชั้น |
|
|
|
- เป็นผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบเก่า) |
40,000.00 |
บาท |
|
- เป็นผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบใหม่) |
260,000.00 |
บาท |
|
- ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน RMF |
300,000.00 |
บาท |
|
- ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน LTF |
300,000.00 |
บาท |
|
|
|
|
ดูตารางเปรียบเทียบการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีที่ต้องชำระ (ชำระเกินรับเงินภาษีคืน ) สำหรับกรณีไม่ใช้สิทธิหักลดหย่อนจากเบี้ยประกันชีวิต (นางซื่อบื้อ) และกรณีใช้สิทธิหักลดหย่อนเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตแบบเก่า (อาจารย์หัวใส) และกรณีใช้สิทธิลดหย่อนทั้งเบี้ยประกันชีวิตแบบเก่า และเบี้ยประกันชีวิตแบบใหม่ (ด๊อกเตอร์ล้ำเลิศ) อีกทั้งกรณีใช้สิทธิหักลดหย่อนทั้งเบี้ยประกันชีวิตแบบเก่า เบี้ยประกันชีวิตแบบใหม่ หน่วยลงทุนในกองทุน RMF และหน่วยลงทุนในกองทุน LTF (ศาสตราจารย์เหนือชั้น) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข้อสังเกต : |
|
|
|
|
|
|
1. |
ด๊อกเตอร์ล้ำเลิศและศาสตราจารย์เหนือชั้น ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบใหม่) ไว้ 260,000 บาท แล้วจัดสรรไปหักลดหย่อนกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบเก่า) ไป 60,000 บาท และนำมาหักลดหย่อนกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบใหม่) 200,000 บาท เพื่อมิให้เกินจากข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้หรือ 200,000 บาท |
2. |
ศาสตราจารย์เหนือชั้นแสดงความ เหนือชั้น ด้วยการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน RMF 300 ,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกันกับกรมธรรม์ประกันชีวิต (แบบใหม่) แล้วไม่เกิน 500,000 บาท และพ่วงท้ายด้วยการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน LTF อีก 300,000 บาท ทำให้รับเงินภาษีคืน 67,200 บาท ในขณะที่พวกพี่น้องอีก 3 คน ต้องชำระภาษีให้กับกรมสรรพากร |
|
จะเห็นได้ว่ากรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 2 แบบที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนอกจะเป็นการออมเงิน และเป็นการประกันว่าเราจะมีรายได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่เกษียณอายุแล้ว ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย และเท่าที่ทราบบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะนำกรมธรรม์ประกันชีวิต ไปทำพิธีสวดมนต์จึงทำให้ผู้ที่เอาประกันภัยปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ( โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน )
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลโดย |
ดร. วิไลลักษณ์ สกุลภักดี |
|
|
|
|
|