|
|
|
พระราชกฤษฎีกา
พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299)
พ.ศ. 2539
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2539
เป็นปีที่ 51 ในรัชกาลปัจจุบัน
|
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้จากการขายเรือบางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2538 และมาตรา 3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299) พ.ศ. 2539
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ที่นำมาคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 1 สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งการเช่าเรือนั้นได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ทั้งนี้ เฉพาะค่าเช่าที่มีการจ่ายระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2539 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2544
มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุนส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและประกอบกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เฉพาะที่ได้จากการขายเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยนำเงินได้ดังกล่าวไปซื้อเรือลำใหม่ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) ต้องมีการซื้อเรือลำใหม่และนำไปจดทะเบียนเป็นเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ขายเรือนั้น
(2) เรือที่ซื้อใหม่ตาม (1) ต้องมีอายุการใช้งานมาแล้วน้อยกว่าเรือที่ขายไปและต้องมีระวางบรรทุกไม่น้อยกว่าเรือที่ขายไป และ
(3) ต้องแจ้งการขายเรือเก่าและซื้อเรือใหม่เป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายใน 30 วัน นับแต่วันจดทะเบียนเป็นเรือไทย
ในกรณีที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้นำมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือของเรือที่ขายไป ไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ |
บรรหาร ศิลปอาชา |
นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้ที่นำมาคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้จากการขายเรือเพื่อนำไปซื้อเรือลำใหม่เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศให้มีการพัฒนาและขยายกองเรือเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
|
(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 113 ตอนที่ 40 ก วันที่ 24 กันยายน 2539)
|
|
NAVIGATOR: ประมวลรัษฎากร > พระราชกฤษฎีกา > ฉบับที่ 299/2539
|
|